ค้นหาบล็อกนี้

วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

ความจรองของเด็กสายศิลป์


ลูกเล่าให้ฟังว่า ตอนไปเรียนพิเศษเพื่อกวดวิชาภาษาไทย ในห้องที่เรียนจะมีทั้งเด็กสายวิทย์และสายศิลป์ โดยปกติเด็กสายวิทย์จะไม่ค่อยถนัดวิชาภาษาไทยเท่าไหร่นัก ดังนั้นพอถึงเวลาที่อาจารย์ให้ทำแบบทดสอบ เด็กสายวิทย์จะมีความกังวลใจมากกว่าเด็กสายศิลป์



เด็กสายวิทย์  -  ยากว่ะ..ทำไม่ค่อยได้



เด็กสายศิลป์  -  เหอๆ ง่ายๆ พอทำได้ พอทำได้







พอถึงตอนประกาศผลทดสอบ ปรากฎว่าจากคะแนนเต็ม 30 คะแนน



เด็กสายวิทย์ ได้ 28 คะแนน / เด็กสายศิลป์ ได้ 16 คะแนน



เด็กสายวิทย์  -  เฮ้ย กลุ้มว่ะ..ผิดตรงไหววะตั้ง 2 ข้อ



เด็กสายศิลป์  -  เฮ้ ดีใจจังโว้ย..กูสอบผ่าน







ตอนลูกเล่าให้ฟังก็รู้สึกขำ แต่พอคิดต่อไปจึงพบว่า

ความจริงแล้ว คนเรามีความคาดหวังที่ต่างกัน เป้าหมายในชีวิตก็ต่างกัน สิ่งที่พูดหรือแสดงออกมาจึงนำมาเทียบเคียงกันไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในมาตราฐานเดียวกัน



อย่างเช่น กรณีตัวอย่างในเรื่องนี้ เด็กสายวิทย์คิดจะทำให้ได้เต็ม 100% ถ้าไม่มั่นใจหรือทำไม่ได้เต็ม 100 % ตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ก็จะมีความกังวลและพูดว่า "ทำไม่ได้"  ผิดหวังและเสียใจ



ส่วนเด็กสายศิลป์ ไม่ค่อยซีเรียสกับชีวิตและไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงขนาดว่าจะต้องทำได้ 100 %  พอทำได้เกินกว่าครึ่งก็สบายใจแล้ว



..เด็กทั้งสองสายไม่มีใครผิด เพียงแต่เขาคิดและตั้งเป้าหมายไว้ต่างกันเท่านั้น ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ วิธีคิดที่ต่างกัน ก็จะส่งผลที่ต่างกันในระยะยาว.





ขอขอบคุณบทความดี ๆ  http://iam....



ขอระบาย !!!  จากใจเด็กศิลป์ห้องเรา





วันนั้น เพื่อนเรามันโดนทำโทษให้ไปถูบรรได มันก็เดินแบกไม้ถูพื้นไว้ด้านหลังแบบปกติไม่ได้เเกว่ง ไม่ได้อะไรเลย  แล้วอาจายร์มาจากไหนไม่รู้เิดินมาชนไม้เข้า เค้าก็บ่นว่า เดินไม่ดูเลย ไม่เห็นหรอ มีอาจายร์ตามข้างหลัง แล้วถือยังไงเห็นมั๊ยเนี๊ยะว่ามันเปียก แกก็บ่นใหญ่จนเพื่อนเรา แทบจะร้องไห้มันก็เดินไปถูจนเสร็จเราเอางานไปส่ง เค้าก็ถามเราว่า คนนั้นเป็นเพื่อนเรามั๊ยเราก็บอกว่า ใช่ค่ะ เค้าก็บอกว่า

'' หึ ว่าแล้ว ว่าต้องเป็นเด็กศิลป์ไม่มีมารยาทเอาซะเลย  เพราะถ้าเป็นสายวิทย์เค้าคงไม่ทำแบบนี้หรอก ''

จากนั้นเราก็มองหน้าอาจายร์ แบบ งง ๆ ว่า พูดออกมาได้ยังไงว้ะ สายศิลป์มันผิดไงว้ะ  เราเลยสวนกลับไปว่า

'' อาจายร์ค่ะ อาจายร์เป็นคนเดินออกมาชนเองนะค่ะ  จำไม่ได้หรอ ?  ''

จากนั้นเค้าก็บ่นเราใหญ่หาว่าเราเข้าข้างเพื่อนแล้วมาด่าครู เราเลยได้ขึ้นห้องปกครอง โทษฐานพูดจาไม่สุภาพกับอาจายร์  





ส่วนใหญ่ ทุกคนมองเสมอว่า สายศิลป์  แรด  ซึ่งยอมรับว่า แรดจริง แต่เป็นบางคนเท่าันั้น อย่าเหมารวม

สายศิลป์ค่อนข้างรุนแรง ทั้ง ความคิด และ พติฤกรรม ยอมรับ จริง ส่วนตัวเรา เราเป็นคนความคิดค่อนข้างรุนแรงและปากไว ถ้าบางครั้งอาจายร์พูดอะไรที่มันไม่ใช่หรือว่า ดูถูก เราก็มักจะสวนกลับไปทุกครั้ง ซึ่งบางครั้งสิ่งที่เค้าพูดมันไม่ใช่ความจริง



อาจายร์ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยอยากสอนห้องเรา เพราะ ห้องเราเป็นสายศิลป์ ! มีกิจกรรมอะไรถามว่าห้องเราอยากร่วมมั๊ย อยากจะตาย แต่เค้าไม่เอาห้องศิลป์เอง เค้าเลือกที่จะเอาแค่ห้อง 1 ห้อง 2 สายวิทย์ แล้วก็มาบ่นว่าทำไมห้องเราไม่เข้าร่วมกิจกรรม



อาจายร์ชอบ 2 มาตราฐาน แอ๊ะอะไรก็ห้อง 1 สายวิทย์ ๆ  ๆ  ๆ  ๆ  แทบจะกราบบูชามัน เอาขึ้นหึ้งอีกหน่อยคงทำสร้อยออกมาแล้วสวมเข้าคอ ความผิดห้องวิทย์เปรียบเสมือน ขี้ตาปลวก  แต่ความผิดของห้องศิลป์เปรียบเสมือน

 ภูเขาผสมกับเทือกเขาเอเวอเรสปนละเอียดบดผงกับเทือกเขาตะนาวศรี ความผิดครั้งนี้มหันนัก ต้องประหารลูกเดียว !!!!  

อาจายร์ชอบด่าชอบว่าหาว่า โง่ เรียนไม่เก่งไม่มีสมอง ไม่มีมารยาท  โธ่ !!!!!!  พอเถียงหน่อยก็หาว่า ต่อปากต่อคำ สรุปคือถ้าด่ามาไม่ใช่ความจริงต้องยอมรับก้มหน้า ใช่มั๊ย ?



อาจายร์ชอบเปรียบเทียบ ความรู้สมอง และความสามารถกับเด็กวิทย์ พอเด็กห้อง 1 สายวิทย์ ไปแข่งชนะมา ป่าวประกาศทั่วโรงเรียนคุยยันลูกบวช ว่าลูกศิษย์

ฉัน ๆ ฉันสอน แต่พอเด็กศิลป์ไปแข่งมาชนะบ้าง เงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงปรบมือ หรือว่าคำอวยพร คนที่ตบมือให้มีแต่อาจายร์ที่ปรึกษากับเด็กห้องเดียวกันแค่นั้น



ไปโรงเรียนสาย ห้อง 1 โดนปล่อยก่อนไม่มีความคิด   แต่ห้องศิลป์ลงชื่อ ตัดคะแนน ถ้าเกินกำหนดครั้งเชิญผู้ปกครอง ห้อง 1 เล่นเกมไม่ได้นะ ห้องศิลป์เท่านั้นที่ติดเกม โธ้ !!! ผู้ชายห้องกู ถามมันเล่น DOTA เป็นป่าว มาสอนหน่อยดิ่ มันบอกว่า อะไรคือ DOTA กูเล่นแต่ FB เราลองไปถามห้อง 1 ดูแหม อธิบายได้เป็นฉาก ๆ  โธ่ !!!!

และมีอีกหลาย ๆอย่างที่ 2 มาตารฐาน  ฝากไว้ด้วย เพื่ออาจายร์ที่โรงเรียน เล่นโพสจังจะได้มาอ่าน จะได้รู้ซะทีว่ามันอึดอัดแค่ไหน เอากลอนนี้ไปฉันให้เธอ !!!!





สักวา ห้องคิงส์ กะห้องบ๊วย
ว่ากันด้วย ความลำเอียง น่าอิจฉา
ห้องบ๊วยโดด คาดโทษ ต่างนานา
อ้ายเด็กห่า เด็กเหว เด็กเลวทราม
ห้องคิงส์โดด เขาไป หาความรู้
น่าเชิดชู หายไป ทัศนศึกษา
เรียนแบบเก่ง เปิดโลก นอกตำรา
ไม่มีว่า เพราะเขาเก่ง เด็กเรียนดึ
ขอถามว่า ต่อยกัน ใครจะผิด
ไม่ต้องคิด เด็กห้องคิงส์ ถูกสิพี่
เขาเด็กเรียน ไม่หาเรื่อง ไม่ราวี
ไม่เคยมี ความผิด ที่ติดตัว
เด็กห้องบ๊วย โดนตราหน้า ว่าห่าเหว
ชั่วช้าเลว มาสาย ไม่เป็นที่
ไม่เข้าเรียน เกเร ผิดทุกที
ทั้งๆที่ เด็กสายวิทย์ ผิดเหมือนกัน
เรื่องมาสาย ข้ออ้าง แม่งเยอะ
ขอผมเหอะ ขอแฉ เป็นหน้าที่
เด็กห้องบ๊วย มาสาย ตายทุกที
อ้างนู่นนี่ มัวเล่นเกมส์ ให้มันมือ
หลับในห้อง ก็โดนเฉ่ง ว่าขี้เกรียจ
แสนซีเรียส ทีมันหลับ ไม่ผลักไส
ปล่อยเขาเถิด เขาเรียนหนัก มากเกินไป
อ้ายฉิบหาย ผมเจอมัน อยู่ร้านเกมส์
อ่านหนังสือ ข้างใน ใช่หรือเปล่า
สอดไส้เข้า เล่มใน โป๊ทุกเล่ม
พอถึงจารย์ จับได้ โหโคตรเซง
ให้ครื้นเครง เรียนหนัก เลยพักใจ
ไม่เป็นไร หรอกครับ เด็กห้องวิทย์
ท่านไม่ผิด ท่านประเสริฐ เป็นไหนๆ
ท่านจงเรียน จงเก่ง แข่งกันไป
ข้างหน้าไซร้ ท่านคงได้ สมใจกัน
จะเป็นหมอ ฆ่าเมีย ก็เอาเสีย
เอ็นจิเนียร์ ตึกถล่ม ดั่งใจหวัง
ส่วนพวกผม ห้องบ๊วย ไม่จีรัง
วันหน้ายัง ไม่รู้ เป็นอะไร
ห้องบ๊วยเอ๋ย เล่นเข้าเถิด ให้สนุก
อย่ามัวทุกข์ ไปแข่งเขา จะเฉาได้
เรียนให้ฮา มาให้เฮ เป๋บ้าง ไม่เป็นไร
ชีวิตไซร้ มีรสชาติ ขาดคงตาย
หัวเราโง่ เรายอมรับ เรียนนั้นยาก
อย่ามาดัด ซะให้ยาก จะไม่ไหว
ผมเรียนให้ จบมอหก จบไวไว
จะได้ไป ใช้ชีวิต ตามต้องการ
จีพีเอ จีพีอาร์ อย่าได้ฝัน
รามคำแหง สถาบัน อันยิ่งใหญ่
ลูกขุนราม 8ปี เจ๋งจะตาย
แน่กว่าใคร ปริญญาไซร้ ได้เหมือนกัน
รวยมาหน่อย รังสิต เซนต์จอร์นโลด
ราชฎัฏ เกษมบัณฑิต อย่างที่ฝัน
หอการค้า เอแบค จบเหมือนกัน
ทีสำคัญ ใช้ชีวิต ให้คุ้มเอย







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น